ตำนาน “คำชะโนด” เมืองพญานาค มีเรื่องเล่ามากมายมานานแสนนาน ของแบบนี้เชื่อไม่เชื่ออย่าได้ลบหลู่เป็นเด็ดขาด สุดแท้ยากจะหยั่งถึง “หนองกระแส” หรือ “หนองแส” ในอดีต ดินแดนที่ตั้งอยู่เหนือขึ้นไปในเขตประเทศลาว เล่าลือสืบต่อๆกันมานมนานแล้วว่าที่นั่นคือดินแดน “เมืองพญานาค” ว่ากันว่า…ดินแดนส่วนหนึ่งมี “เจ้าพ่อพญาศรีสุทโธ” ปกครองอยู่ ส่วนที่เหลือก็ตกอยู่ในอำนาจครอบครองของ “เจ้าพ่อสุวรรณนาค”
ดินแดนทั้งสองขั้วอำนาจอยู่กันอย่างร่มเย็นเป็นสุข สามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน มีอาหารก็แบ่งกัน มีทุกข์ร้อนก็ช่วยเหลือเกื้อกูลกันไปตามประสา แต่มีข้อตกลงสำคัญกันว่า “ถ้าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดออกไปล่าเนื้อหาอาหาร อีกฝ่ายจะต้องไม่ออกไปเพราะอาจเกิดทะเลาะเบาะแว้งกันได้”

หาอาหารมาได้ก็แบ่ง 2 ส่วน เอามาแบ่งกัน อยู่มาวันหนึ่งก็เกิดปัญหา เมื่อมีข้อขัดข้องหมองใจเรื่องการแบ่งสรรปันอาหาร กระทั่งแคลงใจกัน คิดว่าอีกฝ่ายเล่นไม่ซื่อ มีนอกมีใน ไม่ปฏิบัติตามสัญญา แม้ว่าอีกฝ่ายจะชี้แจงแถลงไขแต่ก็ ไม่ยอมเชื่อ จนเกิดแตกหัก ทะเลาะกัน ถึงขั้นประกาศสงครามกันในที่สุด การต่อสู้เอาเป็นเอาตายหวังชนะก็เกิดขึ้น ทำให้พื้นที่เสียหายมหาศาลถึงขั้นที่ว่า…พื้นโลกสะเทือน เกิดแผ่นดินไหว เทวดาน้อยใหญ่ต่างก็ได้รับความเดือดร้อนไปทั้ง 3 ภพ
ความล่วงรู้ไปถึงหู “พระอินทร์” จึงลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ตรัสโองการให้นาคทั้งสองฝ่ายหยุดรบ ตัดสินให้ถือว่าเสมอกันไม่มีใครแพ้ใครชนะ หันมาช่วยกันสร้างแม่น้ำคนละสาย ใครสร้างถึงทะเลก่อนก็จะให้เอา “ปลาบึก” ไปอยู่ในแม่น้ำสายนั้น และป้องกันไม่ให้ทะเลาะกันอีกจึงเอาเขาดงพญาไฟเป็นเขตกั้น ห้ามข้ามไปรุกรานกันอีกต่อไป กล่าวกันว่า…แม่น้ำสายหนึ่งมีชื่อเรียกว่า “แม่น้ำโขง” และอีกสายเรียกว่า “แม่น้ำน่าน”
“พญาศรีสุทโธ” สร้างแม่น้ำโขงเสร็จก่อน จึงเหาะไปเฝ้าพระอินทร์ทูลขอทางขึ้นลงระหว่างเมืองบาดาลกับโลกมนุษย์เอาไว้ 3 แห่ง ได้แก่ ที่ธาตุหลวงนครเวียงจันทน์ ที่หนองคันแท และที่พรหมประกายโลก หรือคำชะโนด นั่นเอง
หลายๆคนอดถามไม่ได้เกี่ยวกับโชคลาภว่า บูชาพญานาคจะมีโชคลาภหรือไม่ ความจริงสิ่งนี้ย่อมขึ้นกับกรรมและวาระของแต่ละบุคคลด้วย ส่วนพญานาคนั้นท่านเป็นผู้ที่สามารถเข้าถึงทรัพย์ในดินและสินในน้ำ สัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ จึงทำให้มีผู้คนเดินทางไปกราบไหว้สักการะและขอหวยกับจ้าวปู่ศรีสุทโธเป็นจำนวนมาก และมีผู้ประสบผลสำเร็จได้โชคได้ลาภไปมากมายหลายคน เรียกได้ว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ จนกลายเป็นกระแสในหมู่คนเล่นหวยที่ต้องไปกราบไหว้ดูสักครั้ง ทำให้มีผู้คนไปกราบไหว้อย่างล้นหลามในทุกวัน ใครอยากจะมีโชคเรื่องเงินทองลองไปสักการะและขอพรกับท่านดูก็ไม่เสียหาย แต่ทั้งนี้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับดุลยพินิจและวิจารณญาณของทุกคนไม่มีใครสามารถบังคับได้ด้วยประการทั้งปวง
หลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นบางอย่างก็ยากที่จะพิสูจน์ บางอย่างก็มีเหตุผลทา วิทยาศาสตร์รองรับ เอาเรื่องที่พิสูจน์ได้ยากกันก่อน…อย่างเรื่องเล่า “ผีจ้างหนัง” คนอีสานเรียกว่า “ผีบังบด” หรือบ้างก็ว่าเป็น “เมืองลับแล” ดินแดนที่ผู้คนไม่สามารถที่จะมองเห็นได้ทั่วไป นอกเสียจากว่าจะมีอะไรมาดลใจให้เห็น เรื่องราวมีอยู่ว่า บริษัทหนังเร่แห่งหนึ่ง ถูกว่าจ้างจากใครคนหนึ่งให้ไปฉายหนังกลางแปลงในหมู่บ้านวังทอง ด้วยเงิน 4,000 บาท แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องฉายจบแค่ตี 4 ของวันใหม่ และให้ออกจากหมู่บ้านก่อนฟ้าสางและห้ามหันหลังกลับมามอง ว่ากันว่าบรรยากาศฉายหนังเป็นไปอย่างเงียบเฉียบ ไม่มีเสียงหัวเราะ เอะอะ แม้แต่ร้านขายของกินของใช้ ร้านขายบุหรี่ก็ไม่มีให้เห็น เรื่องราวของ “ผีจ้างหนัง” จึงสะท้อนศรัทธาในดินแดนแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี กระนั้นในบางเรื่องที่มีข้อสนับสนุนทางวิทยาศาสตร์ก็มีให้เห็นอยู่บ้างแล้ว แต่ก็อีกนั่นแหละ เรื่องของ “ศรัทธา… ความเชื่อ” คงไม่มีใครที่จะลบหลู่ ทุกวันนี้ส่วนที่เป็นป่าก็ไม่น่าจะมีใครกล้าเข้าไปรุกล้ำกล้ำกราย เดินเข้าไปนิดเดียวก็เจอน้ำแล้ว สิ่งที่ไม่เห็น…ไม่ได้แปลว่าไม่มีจริง เรื่องราวอันลี้ลับ “ป่าคำชะโนด” ก็เป็นเช่นนั้น.